บทความ

การสร้างวินัยเชิงบวกกับการให้รางวัลและการลงโทษ

รูปภาพ
2 สิ่งที่ต้องเลิกทำหากต้องการสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูกคือ การให้รางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ดีและการลงโทษสำหรับพฤติกรรมที่ไม่ดี รางวัลไม่ได้ผลในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป้าหมายของพ่อแม่คือการส่งเสริมความสามารถที่เพิ่มขึ้นของลูกในการฝึกฝนวินัยในตนเองและควบคุมตัวเอง            ภาพถ่ายโดย Yan Krukau จาก Pexels            หากพ่อแม่เสนอรางวัลสำหรับ "พฤติกรรมที่ดี" เช่น สติกเกอร์ ลูกอม และสิ่งจูงใจอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ลูกจะเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามเฉพาะเมื่อมีรางวัลสำหรับเขา แล้วถ้าวัยนี้รางวัลคือขนม คุณจะให้อะไรลูกเมื่อเขาอายุ 10, 15, หรือ 18 ปี?  สิ่งที่พ่อแม่สร้างเมื่อให้รางวัลคือความเชื่อภายนอกในการควบคุม นั่นคือคุณเป็นผู้ให้รางวัล เป็นตัวตัดสินพฤติกรรมของลูก และทำให้คุณกีดกันโอกาสที่จะพัฒนาความเชื่อภายในที่เขาจะต้องมีเพื่อที่จะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ     ภาพถ่ายโดย August de Richelieu จาก Pexels เมื่อพ่อแม่ลงโทษลูก (โดยเฉพาะการลงโทษทางร่างกาย) ลูกเรียนรู้ว่าบุคคลที่มีอำนาจสามารถบังคับให้บุคคลอื่นยอมจำนนได้ เขาเรียนรู้บทเรียนนี้และสามารถนำไ

วิธีสอนลูกให้มีความรับผิดชอบ

รูปภาพ
      ภาพถ่ายโดย cottonbro studio จาก Pexels   การแสดงตัวอย่างที่ดีเป็นวิธีที่มีผลมากในการสอนลูกให้มีความรับผิดชอบ พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างในการรับผิดชอบตัวเอง แสดงให้ลูกเห็นถึงความเอื้ออำนวยและการรับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน  หากคุณไม่ต้องการให้ลูกออกจากโต๊ะอาหารเย็นระหว่างมื้ออาหาร คุณก็ไม่ควรออกจากโต๊ะเพื่อตรวจสอบโทรศัพท์ของคุณ ถ้าคุณไม่ต้องการให้ลูกตะโกนก็อย่าตะโกนตัวเอง​ เมื่อลูกเห็นพ่อแม่ที่รับผิดชอบอย่างมีระเบียบ พวกเขาจะมีแรงบันดาลใจในการรับผิดชอบเช่นกัน​ แสดงให้ลูกเห็นถึงสิ่งที่คาดหวัง แสดงให้เขาเห็นว่าต้องทำอย่างไร สมมติว่าต้องการให้ลูกกวาดพื้น แม้ว่าเด็กอาจเคยเห็นและใช้ไม้กวาดและที่โกยผงที่โรงเรียนมอนเตสซอรี่อยู่แล้ว แต่พ่อแม่ก็ยังควรสาธิตงานนี้ที่บ้าน            ภาพถ่ายโดย Ron Lach จาก Pexels   ขั้นแรกให้มอบเครื่องมือที่เหมาะกับมือและส่วนสูงให้ลูก ตั้งชื่อเครื่องมือตามที่คุณใช้ “งานนี้เรียกว่าการกวาดพื้น ดู Daddy นะ.. Daddy ใช้ไม้กวาดกวาดพื้น จากนั้นย้ายสิ่งที่ Daddy กวาดไปใส่ที่ตักขยะ และตอนนี้ Daddy กำลังทิ้งมันลงถังขยะ ตอนนี้ถึงตาลูกแล้ว”  -

โมบายมอนเตสซอรี่ "Munari Mobile"

รูปภาพ
Munari Mobile เป็นโมบายมอนเตสซอรี่ที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามและมีความสมดุลซึ่งออกแบบมาสำหรับทารกแรกเกิดโดยเฉพาะ โมบายมอนเตสซอรี่นี้ถูกตั้งชื่อตามศิลปิน Bruno Munari โดยผสมผสานหลักการสอนแบบมอนเตสซอรี่ ทำให้เป็นมากกว่าของตกแต่ง  อุปกรณ์มอนเตสซอรี่นี้ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อดึงดูดความสนใจของทารกและกระตุ้นการมองเห็นของทารก 1 เดือนอย่างมีประสิทธิภาพ. คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Munari Mobile นี้คือการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่ายแต่น่าดึงดูดใจและสีที่ตัดกัน ทารกแรกเกิดมักถูกดึงดูดด้วยภาพที่มีคอนทราสต์สูง รูปแบบขาวดำของ Munari Mobile ให้สิ่งนั้นอย่างแม่นยำ มันเหมือนกับเวทมนตร์สำหรับการพัฒนาดวงตาของพวกเขา คุณสมบัติที่สำคัญอีกประการหนึ่งของ Munari Mobile คือการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล มันจะหมุนอย่างช้าๆ และสวยงามแม้ในกระแสลมที่เบาที่สุด ช่วยให้ลูกน้อยมีสมาธิและติดตามการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทักษะการติดตามการมองเห็นของทารก  Munari Mobile เหมาะสำหรับการแนะนำให้ลูกน้อยของคุณเมื่ออายุประมาณ 2-6 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เด็ก

"โมบายมอนเตสซอรี่" สิ่งสำคัญที่ช่วยสนับสนุนพัฒนาการ.. การมองเห็นของทารก 1 เดือน

รูปภาพ
      ภาพถ่ายโดย Spora Weddings จาก Pexels   การพัฒนาแรกเริ่มของทารกเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและน่าตื่นเต้น การมองเห็นของทารก 1 เดือนนั้นมีความจำกัด ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาของระบบประสาทสัมผัสที่ยังไม่สมบูรณ์ สิ่งที่พวกเขาเห็นจะมีความเบลอและจำกัดในการรับรู้สี  การมองเห็นจะเริ่มดีขึ้นเมื่อใกล้ครบ 6 เดือน ในช่วงเวลานี้ ทารกจะเริ่มสัมผัสโลกรอบตัวและพัฒนาความสามารถในการมองเห็นอย่างชัดเจนมากขึ้น อุปกรณ์ที่มาช่วยในการพัฒนาทักษะการมองเห็นของทารกในช่วงเริ่มต้นของการสอนแบบมอนเตสเตอรี่ คือ " โมบายมอนเตสซอรี่ "                                                  Munari Mobile โมบายมอนเตสซอรี่ เป็นผลงานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในกระบวนการนี้โดยเฉพาะ โมบายเหล่านี้ออกแบบให้เน้นการติดตามด้วยภาพแบบไดนามิก (ความสามารถในการติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่)​ ซึ่งครอบคลุมทักษะด้านการมองเห็นอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการทำงานร่วมกันของตาทั้งสอง การแบ่งแยกสี การรับรู้ขนาดและความลึก รวมถึงการตั้งโฟกัสและสมาธิซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับพัฒนาทักษะการอ่านในอนาคต จะรู้ได้ไงว่าลูกมองเห็

การเรียนรู้ของเด็ก.. เริ่มต้นง่ายๆที่รอบบ้าน

รูปภาพ
การเรียนรู้ของเด็กผ่านการสำรวจรอบบ้าน        ภาพถ่ายโดย Kampus Production จาก Pexels   การสอนแบบมอนเตสซอรี่ เพื่อส่งเสริมความอยากรู้และความสนุกสนานในการเรียนรู้ของเด็ก ขั้นแรกของกระบวนการนี้เป็นการนำเด็กออกสำรวจรอบบ้าน ในสวนหรือสวนสาธารณะในช่วงเช้าหรือเย็นที่แดดไม่ร้อน  เพื่อให้ลูกได้ เรียนรู้ตามธรรมชาติ ได้มีโอกาสสังเกตและรับรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว เช่น ก้อนกรวด ก้อนหิน ใบไม้ และแมลงต่างๆ   การสร้างจินตนาการเป็นส่วนสำคัญที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้ คุณแม่สามารถสร้างจินตนาการให้ลูกโดยการวางหินหรือวัตถุต่าง ๆ ในรูปร่างตามความคิดของลูก เพื่อส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้ของลูกอย่างมีความสุข            ภาพถ่ายโดย Kindel Media จาก Pexels นอกจากนี้คุณแม่ควรเตรียมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกสนใจ เพื่อตอบคำถามที่ลูกอาจมีเมื่อสำรวจรอบบ้าน  การสอบถามและแก้ไขคำถามเหล่านี้ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของลูกด้วยการกระตุ้นความอยากรู้และนำทางในการสร้างจินตนาการอย่างเหมาะสม  บทบาทของพ่อแม่ สำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้ที่สนุกสนานและเติบโตของลูก ผ่านการสำรวจร

วิธีการช่วยลูกก้าวร้าวในการจัดการอารมณ์และพฤติกรรม

รูปภาพ
การกอดเป็นวิธีการช่วยลูกก้าวร้าวในการจัดการอารมณ์และพฤติกรรม         ภาพถ่ายโดย Tatiana Syrikova จาก Pexels   การกอดของแม่เป็นทางเลือกหนึ่งในการยับยั้งอารมณ์รุนแรงของลูก ทั้งนี้เพราะเด็กก้าวร้าวมักจะมีอารมณ์รุนแรงและมีนิสัยก้าวร้าวเอาแต่ใจ  ในวัยเด็กความรู้สึกและอารมณ์ยังคงไม่มีความเสถียร ดังนั้นการกอดไม่เพียงแค่สร้างความอบอุ่นและปลอดภัยให้แก่ลูก แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาด้านอารมณ์ของลูก  โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เด็กยังควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ดี การกอดจะช่วยให้เด็กก้าวร้าวเก็บอารมณ์รุนแรงได้            ภาพถ่ายโดย Keira Burton จาก Pexels   บทบาทของพ่อแม่ สำคัญในการช่วยลูกเรียนรู้และแสดงออกอย่างเหมาะสม วิธีที่ง่ายที่สุดคือการกอดเมื่อลูกกำลังโกรธและระบายอารมณ์ โดยควรหยุดลูกโดยไม่ใช้ความรุนแรงโต้ตอบ เช่น การตี แต่ควรหยุดด้วยการกอดและโยกตัวลูกเบาๆ อุ้มสัมผัส และสบตา พูดคุยกับลูกเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มระดับสารอ๊อกซิโตซินและเอนดอร์ฟินในสมองของลูก ช่วยลดระดับความเครียดของเด็กได้เร็วกว่าการปลอบโยนด้วยเสียงเพียงอย่างเดียว          ภาพถ่ายโดย Ketut Sub

ฝึกลูกกินข้าวเอง... ไม่กินเลอะเทอะด้วยสิ่งนี้

รูปภาพ
ฝึกลูกกินข้าวเอง... ไม่กินเลอะเทอะ ใช้สิ่งนี้แล้วจะเห็นผล               ภาพถ่ายโดย Jep Gambardella เวลาฝึกลูกกินข้าวเอง ต่อให้พร่ำบอกลูกน้อยสักแค่ไหนว่า "อย่ากินหกเลอะเทอะ" ก็ยังกินหกอยู่ดี ต้องคอยเตือนและเก็บอาหารที่หกเลอะเทอะกันทุกครั้ง และเป็นแบบนี้วนไปทุกวัน คุณพ่อคุณแม่เองก็ลำบาก สิ่งที่สะดวกสบายมากสำหรับการฝึกลูกกินข้าวเองก็คือ แผ่นรองจานรุ่นพิเศษ : http://bit.ly/3ZJd5zy   ถ้าถามว่าหน้าตาเป็นอย่างไร มันคือแผ่นรองจานที่ทำให้มองเห็นตำแหน่งวางช้อนและส้อม รวมถึงตำแหน่งวางภาชนะนั่นเอง  หรือพูดอีกอย่างก็คือบนแผ่นรองจานมีภาพถ่ายหรือภาพวาดบอกตำแหน่งของถ้วยหรือจานและแก้วน้ำ ทำให้รู้ว่าอะไรวางตรงไหน เด็กจะสนุกกับการได้วางภาชนะกลับคืนตามภาพจึงยินดีทำ เป็นวิธีง่ายๆที่อยากให้ลองทำกันดู วิธีทำ กําหนดตำแหน่งวางช้อน ส้อม หรือจานเอาไว้ แล้วถ่ายรูปจากมุมบน หรือถ้าคุณแม่จะวาดรูปเองก็ได้เช่นกัน นำไปขยายเป็นขนาด B4 (เท่ากับขนาดของแผ่นรองจานที่ เด็กใช้ได้สะดวก) แล้วเคลือบพลาสติกเพื่อให้เปียกได้ บางคนก็ใช้วิธีลาก เส้นตามขอบภาชนะลงบนกระดาษวาดรูป ใส่แฟ้มใสขนาด A4 แล้ววาง